กิจกรรมประจำเดือน

กิจกรรมประจำเดือนต่าง ๆ

ที่ช้างจากวังช้างอยุธยา แล เพนียด ได้เข้าร่วมไปแสดง 

 

 

     จังหวัดพิษณุโลกจัดแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ ประกอบการแสดง แสงสี เสียงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 

ตอน "ยอยศยิ่งฟ้า มหาราชแห่งแผ่นดิน" ในวันที่ 18-20 ม.ค.รวม 3 วัน

     จังหวัดพิษณุโลกจัดแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ ประกอบการแสดง แสงสี เสียงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน "ยอยศยิ่งฟ้า มหาราชแห่งแผ่นดิน" ในวันที่ 18-20 ม.ค.รวม 3 วัน

     เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 18 มกราคม 2562 ที่ บริเวณพระราชวังจันทน์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเปิดการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ประกอบแสง สี เสียง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน "ยอยศยิ่งฟ้า มหาราชแห่งแผ่นดิน" ในงานแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิษณุโลก ประจำปี 2562 ซึ่งจะจัดการแสดงในวันที่ 18 - 20 มกราคม 2562 รวม 3 วัน ณ บริเวณพระราชวังจันทน์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจัดขึ้นโดยจังหวัดพิษณุโลกร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก และ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เพื่อบอกเล่าเรื่องราวแห่งความศรัทธา และกฤดาภินิหารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชชาตินักสู้ และเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้เกรียงไกร ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทย ที่ทรงมีต่อสยามประเทศ ที่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องชาวไทยและชาวพิษณุโลก สำหรับในปีนี้ นางวชิราภรณ์ น้อยยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ฯ รับบทเป็น แม่นมขององค์ พระสุพรรณกัลยา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเป็นเกียรติเข้าร่วมรับชมพิธีเปิดการแสดงและได้รับความสนใจจากประชาชนในจังหวัดพิษณุโลกและนักท่องเที่ยว ที่เข้าร่วมชมการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ในครั้งนี้จำนวนมาก

     โดยในปีนี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก อุดหนุนงบประมาณ จำนวน 2 ล้านบาท ให้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เพื่อจัดการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ ประกอบการแสดง แสง สี เสียง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน "แผ่นดินพระองค์ดำ” เพื่อเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้ปวงชนชาวไทยเกิดความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับจุดเด่นของการแสดงในครั้งนี้มุ่งเน้นเกร็ดพระราชประวัติและพระจริยวัตรของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในช่วงที่พระองค์ท่านประทับอยู่ ณ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลกสองแคว ทั้งในช่วงเยาวชันษา การกลับมาครองเมือง การรวบรวมซ่องสุมไพร่พลทหารอาสา พระราชหฤทัยอันมุ่งมั่นในพระราชภารกิจการรวบรวมไพร่พล เพื่อก่อตั้งเป็นกองทหารอาสาพระองค์ดำ โดยเฉพาะการแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในเชิงการรบในหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนความผูกพันระหว่างพระองค์กับไพร่พลศึกและความเด็ดขาดเข้มแข็งอันเป็นคุณลักษณะสำคัญของการเป็นจอมทัพ

     สำหรับการแสดง แสง สี เสียง ละครเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน “ยอยศยิ่งฟ้า มหาราชแห่งแผ่นดิน" ในครั้งนี้ ประกอบด้วย องก์ที่ 1 "ศรัทธาพระบานมีสดุดีมหาราชชาตินักสู้" ,องก์ที่ 2 ประสูติกาลหน่อนรา จอมราชัน ,องก์ที่ 3 "สูญสิ้นอิสรภาพนิราศลาด้วยอาลัย" ,องก์ที่ 4 "เอกราชใกล้คืนคงแลกองค์พระกันกู้ชาติ" ,องก์ที่ 5 ทักษิโณทก หลั่งปฐพี คืนคงดำรงไทย ,องก์ที่ 6 "พระแสงคาบคาบค่ายนำชัยเหนือศัตรู" ,องก์ที่ 7 "ดาวพร่างพรูสถิตฟ้าจารึกดิน" ,องก์ที่ 8 "ยุทธหัตถีเรืองธรนินลือระบิลมหาวีรกรรม" และ องก์ที่ 9 "แซ่ซ้องสรรเสริญพระองค์ดำ" หลังจากการแสดงเสร็จลงผู้เข้าร่วมงานต่างปรบมือดังกึกก้องด้วยความประทับใจโดยเฉพาะฉากการแสดงการรบบนหลังช้างกับ พระมหาอุปราชา โดยสมเด็จพระนเรศวรทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูกพระมหาอุปราชาเข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอ หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกและหัวหน้าส่วนข้าราชการได้ร่วมถ่ายภาพหมู่กับนักแสดงเป็นที่ระลึก

     จังหวัดพิษณุโลกขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านเข้าร่วมชมละครอิงประวัติศาสตร์ ประกอบแสง สี เสียง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน “ยอยศยิ่งฟ้า มหาราชแห่งแผ่นดิน" ตั้งแต่เวลา 19.30 เป็นต้นไป ณ บริเวณพระราชวังจันทน์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยเปิดให้ชมฟรีถึงวันที่ 20 มกราคม เป็นวันสุดท้าย

               วันวาเลนไทน์

จังหวัดอยุธยาฯ อำเภอพระนครศรีอยุธยาร่วมกับ อยุธยาซิตี้พาร์ค วังช้างและวังช้างอยุธยาฯ จัดจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ชื่นมื่นวันวาเลนไทน์

4 กุมภาพันธ์ 2565  ที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ร่วมกับ อำเภอพระนครศรีอยุธยา, วังช้างอยุธยา แล เพนียด, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, ร้านอุดมรักเว็ดดิ้ง แอนด์ อีเวนท์,  ร้านอาหาร เดอะ ริว่า, The Park Ayutthaya Resort & Spa, โรงภาพยนตร์อยุธยาซิตี้พาร์คซีนีเพล็กซ์ และร้านค้าภายในศูนย์การค้าฯ ร่วมกันจัดกิจกรรม “Ayutthaya City Park The City of Love ที่นี่มีแต่รัก” เพื่อเป็นตัวแทนส่งมอบความรักให้กับคู่รัก ด้วยบริการรับจดทะเบียนสมรสและพิธีมอบใบทะเบียนสมรสให้กับคู่รักภายใต้สัญญารักบนหลังช้าง 4 เชือก ซึ่งแทนความหมายดุจรักที่ยิ่งใหญ่ อวยพรให้ชีวิตคู่รัก สามีภรรยา มีความผูกพัน และเข็มแข็ง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้คึกคัก โดยได้รับเกียรติจาก นายวีระพงษ์ สุราษฎร์มณี ปลัดอำเภอพระนครศรีอยุธยา นายมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด

พระนครศรีอยุธยา ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค นายเรียงทองบาท มีพันธ์ รอง ผอ.วังช้างอยุธยา แล เพนียด พร้อมด้วย นายเผอิญ ไทยสม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ พระนครศรีอยุธยา นายเกียรติยศ ศรีสกุล ประธานชมรมช่างภาพสื่อมวลชนพระนครศรีอยุธยา และสื่อมวลชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางบรรยากาศตื่นเต้นเร้าใจ อบอุ่นและอบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้มในเทศกาลแห่งความรัก ได้รับภายในงานยังให้คู่รักและประชาชนทั่วไปได้ร่วมกิจกรรม อาทิ รับฟังการขับร้องและบรรเลงเพลงรักอันไพเราะแสนอบอุ่น จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, การออกบูธ Wedding ชุดวิวาห์คู่รัก จากร้านอุดมรัก เว็ดดิ้ง แอนด์ อีเวนท์, ร่วมกิจกรรม Work Shop ทำเทียนหอมและช็อกโกแลต ต่อยอดสร้างอาชีพ ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาคหกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และพิธีเปิดโครงการอยุธยาซิตี้พาร์ค ปันน้ำใจสู่สังคม การเปิดรับบริจาคตุ๊กตามือ 1 และมือ 2 เพื่อมอบให้กับน้องๆ ในกิจกรรม“ตุ๊กตากอดอุ่น ปี4 อีกด้วย. 012

 

อยุธยา จัดงานวันวาเลนไทน์ จดทะเบียนคู่รักสมรสเท่าเทียม 

     เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 ที่ศาลาการเปรียญฯ วัดมหาจุฬาลงกรณราชทิศ ต.ลำไทร อ.วังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ “ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน ปลูกต้นไม้ร่วมกัน สร้างกุศลร่วมกัน มหัศจรรย์วันวาเลนไทย์” โดย อ.วังน้อย ร่วมกับวัดมหาจุฬาลงกรณราชทิศ จัดขึ้น มีนายธีรเมธ เทพวิชัยศิลปะกุล นอภ.วังน้อย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ และได้รับเกียรติจากนายกกชัย ฉายรัศมีกุล รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา และแขกผู้มีเกียรติ มาร่วมพิธีในครั้งนี้ โดยได้รับความเมตตาจากพระเทพปวรเมธี รศ.ดร. ผู้รักษาการเจ้าอาวาส วัดมหาจุฬาลงกรณ์ราชูทิศ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในช่วงเช้าได้มีการจำลองขบวนแห่ขันหมาก นำโดยนางจิตนา ทับทิมทอง นายก อบต.ลำไทร นายอิทธิกร ทับทิมทอง กำนัน ต.ลำไทร มาเป็นผู้นำขบวนขันหมากในครั้งนี้ โดยมีช้างจากวังช้างแลเพนียด มาร่วมขบวนในครั้งนี้ด้วย

 
 

 สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ที่ทาง อ.วังน้อย ร่วมกับวัดมหาจุฬาลงกรณราชทิศ จัดขึ้น เพื่อให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้ทุกคนได้มีโอกาส แสดงออกทางด้านความรักในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน ร่วมกันเป็นพลังบวกทางสังคมในการส่งเสริมและสนับสนุนความเท่าเทียมกันของสังคมในทุกรูปแบบ ในขณะรอกฎหมายที่จะบังคับใช้ในอนาคต ฉะนั้นในวันแห่งความรักนี้ จึงจัดงานดังกล่าวขึ้น โดยมีคู่สมรสสมัครเข้าร่วมกิจกรรม 14 คู่ คู่รัก LGBTQ 7 คู่ มาร่วมพิธี โดยผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ยังยึดถือเรื่องของความรักเป็นเรื่องสำคัญ การให้ความรักกับคนใกล้ตัว คนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และคนในสังคม จะทำให้เกิดความสามัคคี และทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ

 

ขณะเดียวกันนี้ก็มีหลายแห่ง เช่นที่ อ.บ้านแพรก ได้จัดให้มีการชวนกันไปจดทะเบียน ที่วัดตะโก อ.ภาชี มีกิจกรรมภพรักที่ภาชี ไหว้พระขอพร แต่งไทย ส่วนที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จัดกิจกรรม คู่รักยุคหิน มีการประกวดคู่รัก รวมทั้งกิจกรรมที่ห้างเซ็นทรัลอยุธยาด้วย

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/1994033/

วันช้างไทย

     วังช้างอยุธยาแลเพนียด จัดงาน"วันช้างไทย" 2566 เรียกร้องพรรคการเมืองนำเสนอนโยบายดูแล"ช้างไทย"อย่างจริงจัง

13 มีนาคม 2566 เนื่องใน "วันช้างไทย" หมู่บ้านช้างเพนียดหลวง ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยาแลเพนียด ประธานมูลนิธิพระคชบาล และกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน ได้จัดกิจกรรมวันช้างไทย โดยประกอบพิธีบูชาเชือกปะกำ ศาลปะกำ ที่ชาวช้างให้ความเคารพบูชา พระญาณไตรโลก รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวรารามราชวรวิหาร นำพระสงฆ์ 7 รูป รับบาตรจากช้างและควาญช้างที่มาร่วมในพิธี จากนั้น พระครูเกษมจันทวิทล หรือพระอาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ประพรมน้ำพุทธมนต์ให้กับช้างและควาญช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อด้วยการเลี้ยงอาหารช้าง จำนวน 80 เชือก เป็นเมนูผักผลไม้นานาชนิด

 
 
 
  

ทั้งนี้ วังช้างแลเพนียด ร่วมกับ มูลนิธิพระคชบาล และกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน จัดงานวันช้างไทยอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อยกย่องและให้เกียรติช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญ คู่บ้านคู่เมือง ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติ หรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์

 

นายลายทองเหรียญ กล่าวว่า ตนเองยังไม่เห็นพรรคการเมืองใด มีการนโยบายออกกฎหมายคุ้มครองช้าง ดูแลช้าง เพราะช้างเป็นสัตว์ที่ร่วมต่อสู้กอบกู้เอกราช รักษาแผ่นดินไทย อยากเห็นนโยบายกฎหมาย พรบ.ช้างไทย ที่ออกมาดีกับช้าง ปัจจุบันช้างบ้านสร้างรายได้เรื่องการท่องเที่ยวเข้าประเทศนับล้านล้านบาท จึงอยากให้ช่วยกันดูแลรักษาช้าง ตนเองไม่รู้ว่าจะได้อยู่เลือกตั้งอีกกี่ครั้ง  

 

  เทศกาลวันสงกรานต์25566อยุธยา

     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 เมษายน 2566 เปิดงานวันสงกรานต์ 2566 อยุธยา ที่วังช้างอยุธยาแลเพนียด ควาญช้าง ช่วยกันทาเพ้นท์สีช้างจำนวน 10 เชือก เป็นลวดลายดอกไม้ พร้อมข้อความ สงกรานต์อยุธยา ภาษาไทย อังกฤษ อย่างสวยงาม จากนั้น จัดขบวนแห่ ไปบริเวณ วงเวียนศาลหลักเมืองอยุธยา และบริเวณโบราณสถานวัดพระราม เล่นสาดน้ำกับรถยนต์ที่สัญจรไปมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำกับข้างอย่างสนุกสนาน

     และกว่า10ปี ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีมาตรการห้ามรถยนต์บรรทุกถังน้ำเข้ามาถนนเส้นหลัก ที่เข้ามาในตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยสาเหตุของการแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ทำให้ภาพบรรยากาศความสนุกสนาน ในเทศกาลสงกรานต์หายไป อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ถือว่าเป็นปีแรก ที่มีการผ่อนปรนให้นำรถยนต์บรรทุกถังน้ำเข้ามาเล่นสาดน้ำในพื้นที่ของตัวเกาะเมืองอยุธยาได้ ถือเป็นการเปิดเมือง

     โดยให้เล่นน้ำในเลนซ้ายสุดของถนน เปิดช่องการจราจรให้รถประชาชนที่ไม่ได้เล่นน้ำเข้ามาท่องเที่ยว รวมถึงรถฉุกเฉินที่ต้องส่งผู้ป่วยแยกโรงเรียนจิรศาสตร์ เลี้ยวออกไป ถนนอู่ทองตั้งด้านหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดไปจนถึงหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ห้ามเล่นสาดน้ำ จะมีการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตรวจค้นอาวุธ เพื่อป้องกันเหตุ รวมถึงมีการจัดเตรียมเรือฉุกเฉินในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน

 

 

ช้างซานตาคลอส

ช้างซานตาคลอสมอบความสุข สร้างรอยยิ้ม เด็กๆ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส - เทศกาลปีใหม่

พระนครศรีอยุธยา ฮือฮา ช้างซานตาคลอส จากวังช้างอยุธยาแลเพนียด มอบความสุข สร้างรอยยิ้ม เด็กๆ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่

วันนี้( 23 ธ.ค. ) ที่ โรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วังช้างอยุธยาแลเพนียด ได้มีกิจกรรมนำช้าง แต่งชุดซานตาคลอส ได้แก่ ช้างซานต้า กิ่งแก้ว,ศรีมงคล,ไอยลา,น้อมเกล้า, จันเจ้า แต่งกายด้วยชุดสีแดงสดใสเป็น “ ช้างซานตาคลอส ” เดินแถวไปมอบของขวัญ ลูกโป่งและขนม ให้กับเด็กนักเรียน ที่มีการแต่งกายสีแดงขาวสีสันสดใส เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส โดยมีคณะครู อาจารย์ต่างชาติ พร้อมกับเหล่าซานตาคลอสตัวน้อย ร่วมแจกของขวัญในครั้งนี้ด้วย

 นอกจากนี้ ยังมีโชว์การแสดงของช้าง ร่วมกับการแสดงชุดโขนวัฒนธรรมไทย มี ทศกัณฑ์ พระราม มาให้เด็กนักเรียนได้รับชม เรียนรู้วัฒนธรรม ทั้งของไทย และช้างการร้องเล่น เต้นส่ายสะโพก การเดินสองเท้า และท่าหกสูง รวมถึง การโชว์ความสามารถของน้องช้าง สามารถสร้างเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและความสนุกสนานจากเด็กนักเรียนได้เป็นอย่างดีกิจกรรมดังกล่าวทางวังช้างแลเพนียด ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยนำช้างจากวังช้างมาร่วมกิจกรรมร่วมกับเด็กนักเรียนสร้างความสุขในวันคริสต์มาส ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปีรวมทั้งเทศกาลปีใหม่เป็นการสร้างสีสันให้กับเทศกาลวันแห่งความสุขให้ทุกคนมีแต่รอยยิ้มถือว่าเป็นกิจกรรมสากลเช่นเดียวกับหลายประเทศที่จัดขึ้นอีกด้วย

 

                                                            ลอยกระทง 2565 สุโขทัย ประวัติ ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ เที่ยวงานลอยกระทง เมืองมรดกโลก

     งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ สุโขทัย 2565ในปีนี้ งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ สุโขทัย 2565 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 8 พฤศจิกายน 2565 บริเวณ วัดชนะสงคราม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ค่ะ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมมากมาย 

 ตามประวัติศาสตร์แล้ว ลอยกระทง เป็นพิธีกรรมเก่าแก่ของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่สมัยโบราณกาล ก่อนการเข้ามาของศาสนาพราหมณ์ฮินดูและพุทธศาสนา ด้วยความเชื่อและความศรัทธาใน "สายน้ำ" จึงมักจะมีการลอยกระทงเพื่อขอขมา และขอบคุณสายน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตค่ะ     ความเชื่อเหล่านี้ได้สืบทอดมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งถึง สมัยสุโขทัย ที่มีหลักฐานจารึกเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทงอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ใน ศิลาจารึกหลักที่ 1 ของ พ่อขุนรามคำแหง ได้มีการกล่าวถึง ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองของชาวสุโขทัยในสมัยก่อน โดยจะมีการเล่นดอกไม้ไฟในเทศกาลลอยโคม และลอยประทีป หรือ ลอยกระทงในช่วง 1 เดือนให้หลังจากออกพรรษา ซึ่งตรงกับกลางเดือน 12 พอดี จึงมีการสันนิษฐานว่าประเพณีดังกล่าวก็คือ การลอยกระทงในสมัยสุโขทัย นั่นเองค่ะ
 
สำหรับ ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟ ที่จัดขึ้นในปัจจุบันนั้น เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน พ.ศ.2520 ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ด้วยความร่วมมือระหว่างจังหวัดสุโขทัยกรมศิลปากรและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูประวัติศาสตร์ลอยกระทงตั้งแต่สมัยสุโขทัยและส่งเสริมการท่องเที่ยว     ภายในงานจะมีการจุดพลุไฟฉลอง และมีกระทงทรงพุ่มข้าวบิณฑ์เป็นงานฝีมืออันวิจิตรที่สะท้อนความประณีตของช่างศิลป์เมืองสุโขทัย การประกวดนางนพมาศ และประกวดงานฝีมือหัตถกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังมี ตลาดโบราณ หรือ ตลาดแลกเบี้ย ซึ่งจำลองบรรยากาศการซื้อขายแบบสมัยโบราณโดยใช้หอยเบี้ยแทนเงินสด ซื้อขายอาหารและสินค้าต่างๆ ในตลาด รวมถึงการแสดงแสงสีเสียงที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์สุโขทัยและการลอยกระทงนั่นเองค่ะ 
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://travel.trueid.net/detail/WMrxx16BYaPX

เที่ยวอยุธยา งานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยา  มรดกโลก 2565แสงสีเสียง จัดเต็ม

กิจกรรมภายในงาน ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 2565การแสดงแสงเสียงภายในงานจะมีการแสดงแสง เสียง อันยิ่งใหญ่ตระการตา ที่จะพาย้อนสู่อดีต ในการแสดงชุด อโยธยาวิจิตร วัฒนธานี วิเทศ ไมตรี วีรกษัตริยชาติ" นำแสดงโดย บูม  กิตต์ก้อง ขำกฤษ และ พิ้งค์พลอย ปภาวดี ชาญสมอน

บัตรราคา 500 บาท1. ช่องทางการจำหน่าย จำหน่ายผ่านทางจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลัก จะได้รับบัตรกระดาษสามารถใช้เข้างานได้โดยไม่ต้องแลกบัตรจุดเคาน์เตอร์การจัดจำหน่ายภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 10 จุด นำเอกสารรับบัตรทดแทนชั่วคราวที่ได้รับมาเปลี่ยนเป็นบัตรกระดาษ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลัก หรือหน้าจุดแสดงแสง – เสียง       ณ วัดมหาธาตุจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ https://www.thaiticketmajor.com จะได้รับบัตรเข้างานเป็น E-Ticket ส่งเข้าอีเมล์ของผู้ซื้อบัตรตามจำนวนการสั่งซื้อจำหน่ายหน้างานจุดแสดงแสง - เสียง ณ วัดมหาธาตุ โดยเจ้าหน้าที่จากไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทั้งนี้ หากซื้อบัตร 5 ที่นั่ง จะได้รับบัตรสมนาคุณมูลค่า 500 บาท 1 ที่นั่ง ทุกกรณี2. สิทธิพิเศษสำหรับผู้ซื้อบัตรราคา  500  บาทชมการแสดงแสง - เสียง ในที่นั่ง VIP ที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะได้รับเครื่องแปลภาษา 3 ภาษา (อังกฤษ, ญี่ปุ่น และจีน) ไว้ให้บริการ
ช่องทางการจำหน่าย จำหน่ายผ่านทางจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลัก จะได้รับบัตรกระดาษสามารถใช้เข้างานได้โดยไม่ต้องแลกบัตรจุดเคาน์เตอร์การจัดจำหน่ายภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 10 จุด นำเอกสารรับบัตรทดแทนชั่วคราวที่ได้รับมาเปลี่ยนเป็นบัตรกระดาษ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ 11 สาขาหลัก หรือหน้าจุดแสดงแสง - เสียง ณ วัดมหาธาตุจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ https://www.thaiticketmajor.com จะได้รับบัตรเข้างานเป็น E-Ticket    ส่งเข้าอีเมล์ของผู้ซื้อบัตรตามจำนวนการสั่งซื้อจำหน่ายหน้างานจุดแสดงแสง - เสียง ณ วัดมหาธาตุ โดยเจ้าหน้าที่จากไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทั้งนี้ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา/ประชาชนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถซื้อบัตรราคา 200 บาท ในราคา 100 บาท โดยแสดงบัตรข้าราชการ/บัตรประจำตัวประชาชนที่ระบุภูมิลำเนาอยู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เจ้าหน้าที่จำหน่ายบัตรหน้างาน (มีจำหน่ายเฉพาะวันจันทร์ที่ 23 - วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2566 จำนวน 444 ใบ/รอบ ซื้อได้ท่านละ 1 บัตร ) 

อยุธยา จัดงานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 14 สืบสานศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวแบบไทย อย่างยิ่งใหญ่ นักมวยไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 1,200 คน

เย็นวันนี้ (17 มีนาคม 2561) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย สมาคมครูมวยไทย และสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดงานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 14 ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดมหาธาตุและวัดหลังคาขาว โดยมี ว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกันเป็นประธานประกอบพิธี ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของมวยไทย รักและห่วงแหนศิลปะมวยไทย ยกย่องและแสดงความเคารพบรมครูมวยไทย พร้อมทั้งเป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปะมวยไทยไปสู่ระดับนานาชาติ
มวยไทย ถือเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่มีศักยภาพ มีความเข้มแข็ง และมีลีลาท่าทางที่สวยงาม ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของชาติกับประวัติบรมครูมวยไทย นายขนมต้ม ที่เป็นที่เคารพสักการะของนักมวยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเอาไว้ ในแต่ละปีจะมีนักมวยไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมประกอบพิธีไหว้ครูมวยไทยเป็นจำนวนมาก เพื่อแสดงความเคารพต่อครูบาอาจารย์ที่ได้สอนวิชามวยไทยให้ โดยการจัดงานในครั้งนี้มีนักมวยไทยต่างชาติ จาก 57 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมงานกว่า 1,200 คน นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีการแสดงศิลปหัตถกรรมไทยในสมัยโบราณให้ได้รับชม เช่น การสักยันต์ การตีดาบอรัญญิก การจัดนิทรรศการอาวุธโบราณ การฝึกซ้อมมวยไทยโบราณ และ การแสดงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทยให้นักท่องเที่ยว
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://mgronline.com/local/detail/9590000028219

ช้างไปร่วมงานสมเด็จธงชัย อัญเชิญปลูกที่ไทย ต้นปรมัตถสิริมหาโพธิฯ จากศรีลังกา

 

     ต้นพระศรีมหาโพธิ์” เป็นต้นโพธิ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดาของศาสนาพุทธ ทรงตรัสใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ดังปรากฏในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา

     ต้นโพธิ์เปรียบได้กับ พุทธอุเทสิกเจดีย์ อย่างหนึ่ง ทำให้พันธุ์ต้นโพธิ์กลายเป็นพันธุ์ไม้ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธเสมอมานับแต่สมัยพุทธกาล

     สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้จัดพิธีอัญเชิญต้นพระศรีมหาโพธิ์ “ปรมัตถสิริมหาโพธิ หน่อเนื้อพุทธางกูร” จากวัดพระศรีมหาโพธิ์ เมืองอนุราธปุระ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เพื่อมาประดิษฐานปลูกไว้ ณ ลานธรรม หลวงปู่ทวด วัดบ้านแหลมแค ต.หน้าประดู่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา

     สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดไตรมิตรฯ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง อัญเชิญ “ต้นปรมัตถสิริหาโพธิ หน่อเนื้อพุทธางกูร” ปลูก ณ ลานธรรม หลวงพ่อทวด วัดแหลมแค.  ต.หน้าประดู่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา

     คณะอัญเชิญต้นพระศรีมหาโพธิ์ “ปรมัตถสิริมหาโพธิ หน่อเนื้อพุทธางกูร” นำโดย ท่านอตมสถานธิปติ พลฺเลกม เหมรตน นายกเถโร เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาโพธิ์ เจ้าคณะมณฑล เมืองอนุราธปุระ ท่านกหาเล คนานินฺท เถโร เจ้าอาวาสวัดถูปาราม ท่านเวลิเหเน โสภิตเถโร เจ้าอาวาส วัดมินิสวาตี้ ประเทศศรีลังกา เป็นผู้อัญเชิญลงมาจากเครื่องบินศรีลังกาแอร์ไลน์ เที่ยวบิน UL 402 มายังห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) พร้อมด้วย นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และคณะพุทธศาสนิกชน ร่วมอัญเชิญ “ต้นปรมัตถสิริมหาโพธิ หน่อเนื้อพุทธางกูร” มาห้องรับรองพิเศษ ก่อนที่จะอัญเชิญไว้ในบาตรจัดทำขึ้นเป็นพิเศษ นำขึ้นรถตู้เดินทางไปจัดพิธีต้อนรับ ณ ที่ว่าการ อ.พานทอง จ.ชลบุรี

ref:https://www.thairath.co.th/news/local/2694374?gallery_id=2

งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพรรษาพระราชทาน ประจำปี 2565 ของจังหวัดสระบุรี

     เย็นวันนี้ (12 กรกฎาคม 2565) ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ได้มีการจัดขบวนแห่ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน ขบวนแห่พยุหยาตรา ขบวนเจ้าเมือง ขบวนรถบุปผชาติ ขบวนวัฒนธรรม ขบวนอัตลักษณ์ประเพณี ขบวนชาติพันธุ์ การแสดงต่าง ๆ จาก อบจ.สระบุรี เทศบาลเมืองพระพุทธบาท เทศบาลเมืองสระบุรี เทศบาลเมืองหนองแค เทศบาลเมืองทับกวาง และองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา จากนั้น นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานแล้วเริ่มพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาพร้อมกับประชาชนที่ไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก

     งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารจังหวัดสระบุรี ปีนี้กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2565 พิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาล้างเท้าพระ กำหนดวันละ 1 รอบคือ เวลา 13.30 น. ในวันที่ 13-14 กรกฏาคม 2565 ในงานยังจัดให้มีการแสดงมหรสพ การออกร้านแสดงสินค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ตามนโยบายรัฐบาลอีกด้วย