ผลงานวังช้างอยุธยาแลเพนียด
ช้างจากวังช้างอยุธยา แล เพนียด 11 เชือกถึงกทม.เตรียมพร้อมเดินทางเข้าถวายสักการะ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.เวลา 08.00น. ที่ภายในบริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน วังช้างอยุธยา แล เพนียดได้นำช้าง 11 เชือกเดินทางมาจากวังช้างฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตรงบริเวณด้านหน้ากระทรวงกลาโหม ข้างพระบรมมหาราชวัง
สำหรับบรรยากาศก่อนที่ช้าง 11 เชือก และกลุ่มบุคคลในนามคชสารคู่แผ่นดินอีกว่า 200 คนจะเริ่มเดินไปถวายสักการะเวลา 09.09 น. ควาญช้างได้จัดเตรียมแต่งกายดูแลความพร้อมของช้าง สวนกลุ่มผู้ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วยนั้นก็เตรียมความพร้อม โดยมีประชาชนจำนวนมากต่างมารอชมกิจกรรมครั้งนี้จำนวนมากซึ่งประชาชนที่มาได้เข้าไปถ่ายรูปซึ่งสร้างความสุขให้แก่ผู้ที่มาได้บ้าง ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้ามีฝนตกปรอยลงมาเรื่อยๆ
ขณะที่เมื่อเวลา 08.00น. ช้างทั้งหมดได้ยืนตรงเคารพธงชาติ และพอสิ้นเสียงเพลงจบช้างทั้งหมดได้ชูงวงและส่งเสียงร้องดังกึกก้อง ก่อนที่จะเดินมากราบสักการะอนุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิรราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
ทั้งนี้การตั้งขบวนช้าง 11 เชือก จะเริ่มต้นขบวนที่หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน โดยมีพลายวังเป็นช้างนำขบวน 1 เชือก ทำหน้าที่อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และภาพพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ พระยาช้างเผือกประจำรัชกาลที่ 9 โดยช้างทุกเชือกจะแต่งแบบช้างศึก แต่ใช้ผ้าสีดำ รวมกับกลุ่มคนเลี้ยงช้างอีก 200 คน และเริ่มเคลื่อนแถวเวลา 09.09 น. ไปด้านหน้ากระทรวงกลาโหม ข้างพระบรมมหาราชวัง และช้างจะยืนสงบนิ่งไว้อาลัย และช้างจะหมอบกราบ ก่อนเป็นอันเสร็จพิธีและเดินทางกลับวันนี้
อย่างไรก็ตามช้างที่นำมาวันนี้เป็นช้างพ่อพันธุ์ของศูนย์เพาะขยายพันธุ์ช้างไทย วังช้างอยุธยาแลเพนียด และทุกเชือกเคยถวายการแสดงต่อหน้าพระที่นั่ง โดยครั้งล่าสุดครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปยังทุ่งมะขามหย่อง เมื่อวันที่ 25พ.ค.2555
REF:https://www.youtube.com/watch?v=pEjMqKCVMOQ
ขบวนช้างจาก วังช้างอยุธยา แล เพนียด เทิดพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
มูลนิธิพระคชบาล และกลุ่ม วังช้างอยุธยา แล เพนียด คชสารคู่แผ่นดิน นำตัวแทนชาวช้างทั้งประเทศในนามกลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน จำนวน 500 คน พร้อมกับนำช้างลักษณะงาม 11 เชือกจากวังช้างอยุธยา แลเพนียด เข้ากรุงเทพมหานครเพื่อเดินเทิดพระเกียรติ ในกิจกรรมคชสารคู่แผ่นดิน เทิดไท้องค์ราชัน เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10
ริ้วขบวนคชสาร รวมจำนวน 11 เชือก ประดับด้วยคชอาภรณ์สีเหลืองขลิบทองอย่างสวยงาม แยกเป็นคชสาร 1 เชือกแรกคือ พลายสยาม นำหน้าสุดอัญเชิญตราสัญญาลักษณ์ จากนั้นตามด้วยคชลีลาเริงร่าเฉลิมฉลองอีก 10 เชือก เข้าริ้วขบวนเดินตามจังหวะกลองพิชิตมาร และเดินยกก้าว 9 ครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ขบวนช้างออกจากภายในหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนในเวลา 09.10 น. จากนั้นเดินเข้าสู่ถนนสนามไชย ผ่านพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท เพื่อไปหยุดที่บริเวณหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตรงข้ามกระทรวงกลาโหม ก่อนจะหยุดแถว และทำซ้ายหันหยุดหน้าพระพบรมฉายาลักษณ์ และแสดงความจงรักภักดี และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ช้างเผือกสามเศียร
ปรากฏตัวที่ จ.อยุธยา เหมือนหลุดออกมาจากวรรณคดี
โซเชียลแห่แชร์คลิปไวรัล "ช้างเผือกสามเศียร" เดินโชว์ตัวในงานเทศกาลโขนกรุงศรี จ.อยุธยา ทำประชาชนฮือฮา แห่คอมเมนต์สนั่น เหมือนหลุดออกมาจากวรรณคดี
วันที่ 7 เมษายน 2566 ผู้สือข่าวรายงานว่า กลายเป็นคลิปที่สร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้บัญชี TikTok @nont_na_nont ได้เผยภาพบรรยากาศภายในงานเทศกาลโขนกรุงศรีปีที่ 4 พร้อมระบุข้อความว่า ช้างสามเศียร ช้างเผือก ได้เห็นเป็นบุญตาแล้ว เทศกาลโขนกรุงศรีปีที่ 4 (รามายณะนานาชาติ) ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 3 เมษายน 2566 ณ ลานหลังวัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา
กระทั่ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการจัดงานเทศกาลโขนกรุงศรี ทางวังช้างจึงได้มีโอกาสนำช้างไปร่วมขบวนในการโชว์พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ จึงปรึกษากับบริษัทเอกชนในการทำหัวช้างจำลองขึ้นมา
โดยใช้วัสดุทำจากโฟม ส่วนงาทำด้วยผ้า แล้วนำมาทาสีช้างเผือกให้เสมือนจริง ก่อนจะประกอบให้เป็นช้าง 3 เศียร ใช้เวลาในการฝึกเจ้างาทอง ประมาณ 1 สัปดาห์ จึงสามารถเข้ากันกับเศียรที่ทำขึ้นได้
กระทั่งถึงวันงานเปิดตัวการแสดงโขน มีขบวนโชว์สุดอลังกาล ผู้คนมาเที่ยวในงานจำนวนมากพากันมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ บางคนก็ไม่ทราบว่าเป็นของจริง หรือทำขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ขอบคุณประชาชนทุกคนที่เข้ามาชื่นชมความสง่างามของช้างสามเศียร และผู้คนที่เข้ามาเที่ยวชมภายในงานโขนกรุงศรี ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และชาวช้างทุกคนวังช้างอยุธยา แล เพนียด ได้รับเกียร์ไปร่วมงานประเพณี ตักบาตรดอกเข้าพรรษาถวายเทีนวพระราชทานประจำปี 2566
เริ่มแล้วงานย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา หนึ่งเดียวในโลก และถวายเทียนพระราชทาน ประจำปี 2566 ที่บริเวณถนนสายคู่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร เพื่อให้พระสงฆ์นำดอกไม้ไปบูชารอยพระพุทธบาทอีกต่อหนึ่ง
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มแล้วงานย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลกกับประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาถวายเทียนพระราชทานประจำปี 2566 และประเพณีล้างเท้าพระ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมนับเป็นประเพณีอันเก่าแก่ที่ควรแห่งการอนุรักษ์ยิ่ง เพราะหนึ่งปีมีหนึ่งครั้งมีเพียงแห่งเดียวที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จนชื่อว่าเป็น “ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก” โดยมีสื่อมวลชนพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และต่างประเทศเข้าร่วมงานจำนวนมากที่บริเวณถนนสายคู่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
28 กรกฎาคม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำช้าง 10 เชือก จากวังช้างอยุธยา แล เพนียด เดินขบวนเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
กรุงเก่าจัดช้าง 10 เชือก เดินขบวนเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปีพุทธศักราช 2566 ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิพระคชบาล จากวังช้างอยุธยาแลเพนียด นำช้าง 10 เชือก ร่วมเดินขบวนเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพสกนิกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทุกหมู่เหล่า พร้อมผู้นำจาก 3 ศาสนา คือ พุทธ คริสต์ และอิสลาม ร่วมแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 71 พรรษา
ซึ่งทั้ง 3 ศาสนา ร่วมกันกล่าวสดุดีถวายพระพร ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ จากนั้น ผู้นำศาสนาอิสลามประกอบพิธีดุอาร์ขอพร ผู้นำศาสนาคริสต์ประกอบพิธี อธิษฐานภาวนาขอพร แสดงออกถึงความจงรักภักดี ซึ่งพิธีกรรมของแต่ละศาสนาจะแตกต่างกันไป
จากนั้น พสกนิกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และช้างจาก วังช้างอยุธยา แล เพนียด 10 เชือก ร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์จำนวน 71 รูป และร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นพรรณไม้ประจำพระองค์ รัชกาลที่ 10 พร้อมร่วมปล่อยพันธุ์ปลาจำนวน 999,910 ตัว
One Ride ขี่พร้อมทั่วโลก ปลื้มอยุธยาช้างกลางโบราณสถาน
พระนครศรีอยุธยา-“เอเลี่ยน กัญญนัท”นางแบบชาวไทยระดับโลก สุดประทับใจร่วมขบวน”One Ride 2023”ขับขี่รอยัลเอ็นฟิลด์เที่ยวและทำกิจกรรมตอบแทนสังคม ประทับใจโบราณสถาน-ช้าง เผยเป็นการขี่พร้อมกันทั่วโลก
วันที่ 17 ก.ย.66 โรยัล เอ็นฟิลด์ บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ชื่อดัง ได้จัดกิจกรรม 0ne Ride 2023 ขับขี่พร้อมกันทั่วโลก โดยบริษัทโรยัล เอ็นฟิลด์(ประเทศไทย) นำโดยนายอนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ได้นำผู้ใช้รถจักรยานยนต์โรยัล เอ็นฟิลด์ จำนวนกว่า 200 คัน ขี่จักรยานยนต์มายังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเดินทางไปยังพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาได้เดินทางมาร่วมบันทึกภาพที่บริเวณด้านหลังวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผ.อ.ททท.พระนครศรีอยุธยา นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายสิงห์ชัย เรืองขจร ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ
บรรยากาศการถ่ายภาพเป็นไปด้วยความประทับใจ โดยมีช้างจากวังช้างอยุธยาจำนวน 2 เชือก มายืนด้วย ขณะเดียวกันยังมี เอเลี่ยน หรือเอม กัญญนัท บำรุงพงษ์ นางแบบชาวไทยที่ได้รับการแนะนำในหน้า New Faces ในเวบไซด์นางแบบอันดับ 1 ของโลก Model.com ได้เดินทางมาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย โดยเจ้าตัวได้ถ่ายภาพกับช้างและโบราณสถาน โดยบอกว่าตนประทับใจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีโอกาสเดินทางมาไหว้พระ และชื่นชอบช้างและโบราณสถานอย่างมาก เรียกว่ามาอยุธยาต้องมานั่งช้าง ซึ่งหลังมอบของที่ระลึกและถ่ายภาพแล้ว ได้เดินทางไปร่วมทำกิจกรรม CSR ที่โรงเรียนวัดแค อ.ท่าเรือ ทำกิจกรรมตอบแทนสู่สังคม ภายใต้แนวคิด #LeaveEveryPlaceBetter
นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผ.อ.ททท.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวนี้ นับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งทราบว่ามีการจัดพร้อมกันทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีการจัดทริปลักษณะนี้หลายจังหวัด ซึ่งขอบคุณที่โรยัล เอนฟิลด์ได้เดินทางมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทราบว่าผู้ขับขี่ในขบวนมาจากหลายประเทศที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย และได้มีการเผยแพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปให้กับเพื่อนๆในต่างประเทศได้ชมด้วย
วังช้างอยุธยา แลเพนียด กับการแสดงโชว์ แสง สี เสียง ในงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 15-24 ธันวาคม
รอบการแสดงแสง เสียง ในงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 2566
รอบการแสดงแสง เสียง ปีนี้มาในชื่อเรื่อง “อโยธยา ยศเกริกฟ้า วีรกษัตรา ศิลป์เรืองรุจี วิเทศไมตรี ศรีอโยธยา” ภายในงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 2566 ระหว่างวันที่ 15-24 ธันวาคม 2566 จัดแสดงบริเวณวัดมหาธาตุ มีจำนวน 16 รอบ ดังนี้
- วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลาแสดง 19.30-20.30 น. รอบสื่อมวลชน
- วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลาแสดง 19.30-20.30 น. (ไม่เปิดขายบัตร)
- วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 16-17 ธันวาคม 2566 เวลาแสดง 19.00-20.00 น. และ 20.45-21.45 น.
- วันจันทร์-พฤหัสบดีที่ 18-21 ธันวาคม 2566 เวลาแสดง 19.30-20.30 น.
- วันศุกร์-อาทิตย์ที่ 22-24 ธันวาคม 2566 เวลาแสดง 19.00-20.00 น. และ 20.45-21.45 น
รายละเอียดบัตรเข้าชมงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 2566
สำหรับใครที่สนใจอยากเข้าร่วมงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 2566 มีรายละเอียดการซื้อบัตรดังนี้บัตรราคา 500 บาท
- ชมการแสดงแสง - เสียง ในที่นั่ง VIP ที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะ
- ได้รับเครื่องแปลภาษา 3 ภาษา (อังกฤษ, ญี่ปุ่น และจีน)
บัตรราคา 200 บาท
ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา/ประชาชนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยแสดงบัตรข้าราชการ/บัตรประจำตัวประชาชนที่ระบุภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำหน่ายบัตรหน้างาน จำนวน 488 ที่นั่ง/รอบ
บัตรราคา 50 บาท
เฉพาะนักเรียน นักศึกษา และอาจารย์ที่มาดูแลนักเรียน/นักศึกษา จำนวน 400 ที่นั่ง/รอบ ซื้อได้ท่านละ 1 ใบ